ประเด็นร้อน

IOD จัดประชุมใหญ่ National Director

โดย ACT โพสเมื่อ Jun 06,2017

 - -สำนักข่าว ดอกเบี้ยธุรกิจ วันที่ 5 มิถุนายน 2560 - -


IOD ยกระดับธรรมาภบาล กรรมการบริษัทไทยสู่ระดับสากล จัดงานประชุมสัมมนาใหญ่ประจำปี National Director Conference 17 มิถุนายนนี้ ดร.บัณฑิต นิจถาวร กรรมการผู้อำนวยการ IOD ชี้กรรมการบริษัทให้ความสนใจ/กระตือรือร้นเข้าร่วมกิจกรรม IOD เป็นคนรุ่นหนุ่มสาวมากขึ้น อีกทั้งเป็นบริษัทที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น เท่ากับเป็นการขยายหลักปรัชญาการทำงานที่มีธรรมภิบาลในธุรกิจของไทยได้กว้างขวางขึ้นไม่ตีกรอบอยู่เฉพาะกิจการในตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น
          
ดร.บัณฑิต นิจถาวร กรรมการผู้อำนวยการ สถาบันกรรมการบริษัทไทย หรือ IOD กล่าวกับทีงาน "ดอกเบี้ยธุรกิจ" ว่าสถาบันฯ IOD กำลังจะจัดงานใหญ่ประจำปี โดยจะมีการสัมมนาประจำปีครั้งใหญ่ครั้งสำคัญในวันที่ 14 มิถุนายน 2560 ภายใต้ชื่อ National Director Conference
          
"IOD กำลังเตรียมการจัดงานประชุมวิชาการประจำปีขึ้น โดยมุ่งเน้นยกระดับงานนี้ให้เป็นสากลมากขึ้น และเป็นประโยชน์สูงสุดสำหรับสมาชิกสถาบัน จึงได้เชิญวิทยากรประมาณ 15-16 คนมาจากต่างประเทศ มาบรรยายในหัวข้อต่างๆ ซึ่งในเบื้องต้นนี้ได้รับกระแสการตอบรับที่ดีมาก"
          
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจ เข้าร่วมงานสัมมนาใหญ่ประจำปี National Director Conference ซึ่งจะทำให้ได้รับข้อมูล แนวคิดดีๆ จากผู้บรรยาย และการปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการทำงาน สามารถเข้ารับฟังได้ฟรีหากเป็นสมาชิกอยู่แล้ว แต่ถ้ายังไม่ได้เป็นสมาชิกก็สามารถเข้าร่วมงานได้โดยเพียงสมัครเป็นสมาชิกสถาบัน IOD ที่หน้างานได้เลย หรือหากไม่อยากเป็นสมาชิกก็ซื้อบัตรเข้างานได้ในราคาปกติ หรือจองบัตรล่วงหน้าได้เช่นกัน
          
ดร.บัณฑิต กล่าวอีกว่า ในส่วนของสถาบันกรรมการบริษัทไทย IOD ได้ให้ความสำคัญเรื่อง ธรรมาภิบาล หรือ GOOD GOVERNANCE มาโดยตลอด เนื่องจากบุคคลที่เป็นกรรมการบริษัท มีผลอย่างมากต่อการกำหนดทิศทางของบริษัท ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของธุรกิจเท่านั้น ซึ่งในเบื้องต้นสถาบัน IOD เริ่มต้นจากการให้กรรมการบริษัทมีส่วนร่วมเรื่องธรรมาภิบาลจากบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯเป็นหลักก่อน
          
"ในส่วนของกรรมการบริษัท มีบทบาทหน้าที่สำคัญมาก หลายคนคิดเพียงแต่ว่าการเป็นกรรมการคือการเข้าไปนั่งประชุมเท่านั้น แต่ไม่ใช่ พอมีสถาบัน IOD นี้ตั้งขึ้นมา เราก็พยายามทำให้เขาเข้าใจว่าการทำหน้าที่กรรมการสำคัญมาก เพราะกรรมการเป็นจุดสูงสุดขององค์กร กำหนดนโยบาย กำหนดหลักปฏิบัติต่างๆ
          
ดังนั้นถ้ากรรมการเข้มแข็ง ธุรกิจก็จะเดินไปอย่างยั่งยืน ตรงนี้คือแนวคิดจะทำอย่างไรก็อยู่ในหลักสูตร ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ช่วง 4-5 ปีที่เข้ามารับผิดชอบความตระหนักรู้ความสนใจของกรรมการบริษัท เพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลา และที่อยากจะให้ทราบคือความสนใจเหล่านี้ไม่ได้มาจากกรรมการที่อยู่ในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เท่านั้นเหมือนเมื่อช่วงแรกๆ ที่ตั้ง IOD โดยขณะนี้คนที่เข้ามาอบรม เข้ามาร่วมกิจกรรมมากขึ้น ก็คือกรรมการจากบริษัทจำกัด ซึ่งเป็นบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ"
          
ดร.บัณฑิตกล่าวต่อว่า อีกประเด็นที่สำคัญคือ ขณะนี้อายุเฉลี่ยของกรรมการที่เข้ามาร่วมกิจกรรมเป็นคนที่มีอายุน้อยลงเป็นคนรุ่นหนุ่มสาวมากขึ้น เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน ก็แสดงให้เห็น 2 ประการ คือ 1.ประเทศไทยขณะนี้ในสังคมธุรกิจกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงจากรุ่นพ่อมาสู่รุ่นลูก เป็นรุ่นเถ้าแก่น้อย ซึ่งเป็นรุ่นที่ต้องการหาความรู้ต้องการทำอะไรเป็นระบบ ซึ่งกรรมการเหล่านี้มาจากทุกแห่งที่แสดงความสนใจ 2.ตัวเลขอายุกรรมการของบริษัทต่างๆที่ลดลงซึ่งถือเป็นความหวังและอนาคต
          
สำหรับกรณีที่ มีกฎหมายตลาดหลักทรัพย์ฯ ฉบับใหม่ ที่กำหนดในเรื่องการเปิดเผยข้อมูล Good Governance การอินไซเดอร์ต่างๆ ทำให้กดดันการทำงานของกรรมการบริษัทในยุคใหม่นี้มากน้อยเพียงใด นั้น กรรมการผู้อำนวยการสถาบัน IOD กล่าวว่า มีบ้าง อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่ที่ไปรับหน้าที่กรรมการอาจจะลืมประเด็นเรื่องหน้าที่ คือคนที่เข้ามาเป็นกรรมการ และเป็นผู้แทนผู้ถือหุ้น ก็มีหน้าที่กำกับดูแลการทำงานของบริษัท เพื่อประโยชน์ขององค์กรก็คือตัวผู้ถือหุ้น ซึ่งในเรื่องวิธีการทำงานก็จะมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนว่าในแต่ละเรื่องควรจะทำอย่างไร ซึ่งจะเน้นอยู่ 3 เรื่อง คือ
          
1. เน้นให้เกิดความโปร่งใส ผู้ถือหุ้นสามารถติดตามได้
2. เน้นให้เกิดความรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งที่ในส่วนที่ดีคือผลประกอบการดีมาก
3. เน้นให้เกิดความเป็นธรรมทั้งต่อผู้ถือหุ้นรายย่อย และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัท ซึ่งผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จะมีมากหลายกลุ่มเหลือเกินทั้งลูกค้า ทั้งบริษัทที่ค้าขายด้วย ภาครัฐ ชุมชน "ดังนั้น หน้าที่ของกรรมการคือต้องดูแลให้วิธีการของการทำธุรกิจของบริษัทเป็นไปตามเป้าหมายและถูกต้องสอดคล้องกับกฎหมายและรักษาประโยชน์ดูแลสิทธิของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย"
          
อนึ่ง ดร.บัณฑิต นิจถาวร ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องของหลักธรรมาภิบาลและสกัดกั้นคอร์รัปชั่น 2 เล่ม ที่เริ่มจำหน่ายในช่วงเมษายน 2560 ที่ผ่านมา คือ หนังสือฝ่าวิกฤตธรรมาภิบาล GOOD GOVERNANCE และหนังสือฝ่าวิกฤตคอรัปชั่น ที่ได้วางจำหน่ายและได้รับผลตอบรับที่ดี เนื่องจากเป็นหนังสือที่อ่านเข้าใจง่าย เขียนโดยอาศัยความเป็นคนที่ชอบเขียนหนังสือ และมีเวลาว่างในช่วง 6-7 ปีที่ได้ออกจากธนาคารแห่งประเทศไทยหรือแบงก์ชาติมา โดยเป็นแพลตฟอร์มที่จะเชิญชวนให้บริษัทเอกชนภาคธุรกิจมาทำธุรกิจโดยมีนโยบายที่จะทำธุรกิจสะอาด คือไม่จ่ายสินบน และมีเรื่องแอนตี้คอร์รัปชั่น